ชื่อเรื่อง |
โครงการสำรวจความเสี่ยงจากการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถยนต์ในประเทศไทย |
บทคัดย่อ (ไทย) |
ปัจจุบันอุบัติเหตุเป็นสาเหตุการตายสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้ ผู้ได้รับอุบัติเหตุเกิดการบาดเจ็บ
และเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งการเกิดอุบัติเหตุมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ เนื่องจากในปัจจุบันโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกและมีราคาไม่แพงมาก จึงมีการใช้อย่างแพร่หลายในทุกเพศทุกวัย
ดังนั้นการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถจึงพบเห็นได้ทั่วไปบนท้องถนน จึงได้จัดทำโครงการวิจัยนี้ขึ้นเพื่อ
สำรวจจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถยนต์ในประเทศไทย เพื่อศึกษาการเกิดอุบัติเหตุ
ที่มีผลเนื่องมาจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ และเพื่อทราบทัศนคติของประชาชนที่มีต่อ
กฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ เนื่องจากขณะนี้ได้มีกฎหมายออกมาใช้บังคับแล้ว
ดังนั้นจึงทำการสำรวจร้อยละของผู้ที่มีพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถทั้งก่อนและ
หลังออกกฎหมาย โดยทำการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างผู้ที่มีใบอนญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลทุก
ประเภท จำนวน 10,000 คน ทั่วประเทศ 25 จังหวัด แบ่งเป็นส่วนภูมิภาค 24 จังหวัด (7,713 คน)และกรุงเทพมหานคร (2,283 คน) ผลการศึกษาพบว่าจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับ
รถยนต์ในประเทศไทย ที่ถ่วงน้ำหนักแล้ว มีประมาณ 11,542,723 คน คิดเป็นร้อยละ 81.6 มีการเกิดอุบัติเหตุเมื่อใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถยนต์จำนวน 729,997 คน คิดเป็นร้อยละ 6.3 และมีการเกือบจะเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 1,152,999 คน คิดเป็นร้อยละ 10.0 สำหรับทัศนคติของประชาชนจากผู้ตอบแบบสอบถาม 9,652 คน ส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถเป็นการเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ จำนวน 8,470 คน คิดเป็นร้อยละ 87.8 และทัศนคติที่มีต่อกฎหมายที่ใช้บังคับในปัจจุบันมีความเหมาะสม จากผู้ตอบแบบสอบถาม 9,996 เห็นด้วยจำนวน 8,030 คน คิดเป็นร้อยละ 80.3 สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยง พบว่าปัจจัยที่เสริมให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ ระยะเวลาในการใช้โทรศัพท์มากกว่า 5 นาที รูปแบบการใช้คือรับส่ง SMS/MMS/GPRS/e-mail และอุปกรณ์เสริมที่เพิ่มความเสี่ยงคือ บลูทูธและการใช้แบบไม่แน่นอน ส่วนปัจจัยที่เพิ่มความปลอดภัยได้แก่ การปล่อยให้โทรศัพท์ดังจนกระทั่งสายหลุดไปเมื่อมีสายเรียกเข้าและการใช้แฮนด์ฟรี (สมอล์ทอล์ก) เมื่อจำเป็นต้องรับสาย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ค่อนข้างเห็นได้ชัดเจนถึงความเสี่ยง เมื่อเทียบกับงานวิจัยอื่นๆ ของต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตามหากมีการนำโทรศัพท์ขึ้นรถนับได้ว่า มีความเสี่ยงเกิดขึ้นเนื่องจากหากมีเสียงเรียกเข้า ผู้ขับรถอาจเสียสมาธิในการขับรถได้ ดังนั้นควรจะมีมาตรการที่เข้มงวดเนื่องจากแม้กฎหมายจะมีการใช้บังคับในปัจจุบันแต่ยังมีผู้ฝ่าฝืน และเจ้าหน้าที่ยังไม่จริงจังเท่าที่ควร ควรมีการกำหนดจุดรับสายหรือโทรศัพท์บนท้องถนนเพื่อผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์จะได้สามารถโทรศัพท์ได้โดยไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎจราจรและไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย นอกจากนี้การรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนเข้มงวดและ
ตระหนักในความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถ
ปฏิบัติได้ในขณะนี้
[-]
|
บทคัดย่อ (อังกฤษ) |
[-] |
ผู้แต่ง |
นางกาญจนา ศรีสวัสดิ์
|
หน่วยงาน |
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข |
ผู้สนับสนุน |
กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม |
ผู้จัดพิมพ์ |
กลุ่มป้องกันการบาดเจ็บ สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข |
ปีที่เผยแพร่ (ค.ศ.) |
2009 |
ปีที่เผยแพร่ (พ.ศ.) |
2552 |
จำนวนหน้า |
83 หน้า |
ประเภทเอกสาร |
รายงาน |
คำสำคัญ |
พฤติกรรม; อุบัติเหตุ; การใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ; ทัศนคติ |
หมวดหมู่ |
ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมเสี่ยง; การใช้โทรศัพท์; ทัศนคติของผู้ใช้รถใช้ถนน; การให้ความรู้และรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ |
ภาษา |
ภาษาไทย |
ลิงค์แหล่งที่มา |
|
ไฟล์ดาวน์โหลด |
|
อัพเดทล่าสุด |
Thursday, December 17, 2015 |